วันอาทิตย์, 26 มีนาคม 2566

ทัพเรือ กระเพื่อม หนัก!! หลังมีข่าว “บิ๊กจ๊อด” จัดโผทหารกลางปี เสนอ เด้ง 2 นายพลเรือ โยง ปม เรือหลวงสุโขทัย อับปาง แม้ผลสอบสวนฯ ยังไม่สรุป


จาก เดิมที่คาดกันว่า จะเด้ง “บิ๊กล้อ” ผบ.ทัพเรือภาค1
แต่กลับมีข่าว จะเด้ง “บิ๊กดุง” ผบ.กองเรือยุทธการ พ้นคุมกำลังรบทางเรือ
ดัน “บิ๊กน้อย” สายตรง “บิ๊กเฒ่า” เสียบแทน ขึ้นแท่นชิง ผบ.ทร. คนต่อไป โยกย้ายปลายปี แทน บิ๊กดุง
มองข้ามช๊อต เพิ่มคู่แข่ง “บิ๊กวิน”
มีทั้ง “เสธ.โอ๋-บิ๊กน้อย” รุ่นพี่ อายุราชการ2 ปี ประกบ
หมากเกมนี้ แยบยล ยิ่งนัก กลายเป็น “ตราบาป”2 บิ๊ก แม้ผลสอบยังไม่สรุป
ขณะที่ บิ๊กจ๊อด ไม่ตอบรับ หรือปฏิเสธ ข่าวเด้ง 2 นายพลเรือ
บอกแค่ “ให้รอดู”

.

แม้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะให้สัมภาษณ์ว่า จะยังไม่มีการโยกย้าย นายทหารเรือที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เนื่องจากคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ยังไม่สรุปผลออกมา เพราะต้องรอการกู้เรือ ขึ้นมาเป็นวัตถุพยานก่อน ก็ตาม

แต่กระแสข่าวที่สะพัดว่า บิ๊กจ๊อด พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผบ.ทร. จัดโผทหาร โยกย้ายนายพลกลางปี ส่งท่้ายรัฐบาล บิ๊กตู่ เสนอย้าย นายทหารที่เกี่ยวข้องในสายการบังคับบัญชา 2 คน เพื่อเป็นการลดแรงกดดัน จากภายนอก และต่อตัว พลเอกประยุทธ์ นายกฯและ รมว.กลาโหม ที่เพิ่งโดนอภิปรายฯในสภาฯ แล้วถูกมองว่า หากมีการลงโทษนายทหารระดับบิ๊กทร.จริง ก็จะสามารถดึงคะแนน พลเอกประยุทธ์ กลับมาได้มากขึ้น ที่จะเป็นผลดี ต่อ พลเอกประยุทธ์ในการเลือกตั้ง

จึงมีข่าวสะพัดว่ามีการเสนอย้าย บิ๊กดุง พลเรือเอกอะดุง พันธ์ุเอี่ยม ผบ. กองเรือยุทธการ (ผบ.กร.) ซึ่งถือเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ที่คุมกำลังรบทางเรือ

โดยย้ายสลับ กับบิ๊กน้อย พลเรือเอกวรวุธ พฤกษารุ่งเรือง หัวหน้าคณะนายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บังคับบัญชา รุ่นน้อง ตท.24 ที่เคยมีชื่อเป็นแคนดิเดตชิง ผบ.กร. ในการแต่งตั้งโยกย้ายปลายปีที่แล้ว 2565

ที่จะทำให้ พลเรือเอกอะดุง หลุดวงโคจรของการเป็นแคนดิเดต ผบ.ทร. ในการแต่งตั้งโยกย้ายใหญ่ กันยายนนี้ และทำให้พลเรือเอกวรวุธ สายตรง บิ๊กเฒ่า พลเรือเอกสมประสงค์ นิลสมัย อดีตผบ.ทร. คนก่อน ขึ้นมาเป็นแคนดิเดตแทน แถมทั้งมีอายุราชการถึง 2568 แข่งกับอีก2 แคนดิเดต ผบ.ทร. คือ บิ๊กโอ๋ พลเรือเอกชลธิศ นาวานุเคราะห์ เสนาธิการทหารเรือ และบิ๊กวิน พลเรือเอกสุวิน แจ้งยอดสุข ผู้ช่วย ผบ.ทร.

การดัน พลเรือเอกวรวุธ ตท.24 ขึ้นมาอีกคน จะยิ่งทำให้ เมื่อเปรียบเทียบ 3 ฉันมีเดท กับ พลเรือเอกชลธิศ และพลเอกสุวิน ถ้าเรียงตามรุ่น ตท. ก็จะเป็น พลเรือเอกชลธิศ ตท. 23 พลเรือเอกวรวุธ ตท. 24 และพลเรือเอกสุวิน ตท. 25


.
หากมีการวางแผนข้ามช็อตที่แยบยลขนาดนี้ จะทำให้ พลเรือเอก ชลธิศ กลายเป็นรุ่นพี่ที่สุด ใน 3 แคนดิเดต ผบ.ทร.
.
ด้วยเพราะ พลเรือเอกสุวิน แม้เป็นรุ่นน้อง แต่อาวุโสกว่า เพราะติดยศ พลเรือเอก ก่อน แต่มีเกษียณ 2568 พร้อม รุ่นพี่

ต้องไม่ลืมว่าในสมัยที่พลเรือเอกสมประสงค์เป็น ผบ.ทร. คนที่แล้ว ได้จัดโผโยกย้ายกลางปีแบบที่เรียกว่าฟ้าผ่ากองทัพเรือด้วยการเสนอย้ายบิ๊กปูพลเรือเอกสุทธินันท์ สมานรักษ์ ผช.ผบ.ทร.ข้ามไปเป็น รองเสนาธิการทหารกองบัญชาการกองทัพไทย สลับกับ พลเรือเอกเชิงชาย ที่กลับมาแทน มาจอที่จะขึ้นเป็น ผบ.ทร.

แม้ตามประเพณีการโยกย้ายกลางปีจะมาโยกย้ายตำแหน่งหลัก โดยเฉพาะ 5 ฉลามทัพเรือก็ตาม แต่ก็เพิ่งเคยเกิดขึ้นมาหมาดๆ มา ดังนั้นพลเรือเอกเชิงชาย ก็อาจจะเดินตามรอย พลเรือเอกสมประสงค์ ซึ่งถือว่าเป็นคนที่ ชุบชีวิตพลเรือเอกเชิงชายจนได้กลับมาเป็น ผบ.ทร.

ดังนั้นอะไรก็เกิดขึ้นได้สำหรับกองทัพเรือ !

โดยเฉพาะเมื่อ พลเรือเอกเชิงชาย ไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธ กระแสข่าวการเด้ง2 นายพลเรือดังกล่าว และระบุว่า “ให้รอดู “ ก็ยิ่งทำให้ กระแสข่าวลือนี้ยิ่งสะพัด

เพราะเกมการแย่งชิงอำนาจ ภายในกองทัพเรือ อาจมีการฉวย สถานการณ์จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มาเป็นกลไก นำไปสู่เป้าหมาย

แต่ก็จะทำให้ พลเรือเอกอะดุง หมดสิทธิ์เป็นแคนดิเดต ผบ.ทร.คนต่อไป และยัง กลายเป็นการ สร้างตราบาป ในชีวิต รับราชการทหารเรือ แม้จะยังไม่สรุปผลการสอบสวน ก็ตาม

แต่หากมีการโยกย้ายจริง ก็จะถูกเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะเรื่องเรือหลวงสุโขทัยแม้ว่าในทางปฏิบัติแล้ว เรือหลวงสุโขทัยจะขึ้นตรงกับ พลเรือเอกอะดุง ผบ.กองเรือยุทธการ แต่เมื่อ ส่ง เรือหลวงสุโขทัยออกปฏิบัติหน้าที่ก็ไปขึ้นตรงกับ บิ๊กล้อ พลเรือโทพิชัย ล้อชูสกุล ผบ.ทัพเรือภาค1 ที่ถือเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง

จนทำให้เกิดกระแสข่าวมาตั้งแต่เกิดเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง พุ่งโจมตีไปที่ พลเรือโท พิชัย มาตั้งแต่บัดนั้น จนเชื่อกันว่าแม้คณะกรรมการสอบสวน ยังไม่สรุปผล แต่ในการโยกย้ายครั้งนี้ อาจจะถูกย้ายออกจากตำแหน่งและ ยังไม่ได้ เลื่อนยศ

นอกจากเรื่องสภาพอากาศธรรมชาติแล้วเรื่องตัวบุคคลการตัดสินใจคำสั่งการทำให้ทั้ง พลเรือโท พิชัย และผู้การเถื่อน น.ท. พิชิตชัย เถื่อนนาดี ผบ.รล. สุโขทัย ตกเป็น ผู้บังคับบัญชา สายตรง 2 คน ที่ ต้องกลายเป็น ผู้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด

แม้ที่ผ่านมาพลเรือโทพิชัย จะเคยยืนยันว่าไม่เคยมีคำสั่ง”ห้ามเรือจม”เช่นที่มีการปล่อยข่าวลือ เพราะการตัดสินใจท้ายสุดอยู่ที่ผู้บังคับการเรือที่ถือเป็น King of Ship ก็ตาม

แต่จะเห็นได้ว่าข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับเรือหลวงสุโขทัยที่หลุดออกมาทั้งทางโซเชียลฯ ฝ่ายค้านและเพจต่างๆก็เป็นการพรุ่งโจมตีไปที่ผู้บังคับบัญชาโดยมี พลเรือโทพิชัย เป็นเป้าหมายหลัก และพลเรือเอกอะดุง เป็นอีกเป้าหนึ่ง ที่ กลายเป็นจุดอ่อน ที่อาจถูก แทรกแซง ได้

ดังนั้นจึงเป็นที่น่าจับตามองว่าในที่สุดแล้วจะมีการโยกย้ายเช่นนี้ กองทัพเรือเกิดขึ้นจริงหรือไม่

โดยคาดการณ์ว่าในสัปดาห์หน้าบัญชีรายชื่อของทุกเหล่าทัพจะเสร็จเรียบร้อยและเตรียมประชุมบอร์ด7เสือกลาโหมกับพลเอกประยุทธ์ ไม่เกินปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯก่อนที่พลเอกประยุทธ์ จะยุบสภา

อุณหภูมิทางการเมือง ในกองทัพเรือ ก็คงจะระอุขึ้น เติมไฟให้ สถานการณ์ทาง การเมือง ยิ่งร้อนแรงมากขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

error: Content is protected !!