วันอาทิตย์, 26 มีนาคม 2566

“พี่ป้อม-น้องตู่” ‘แยกกันเดิน รวมกันตี’ หรือว่า “ทางใคร ทางมัน’ ปิดตำนาน แผงอำนาจ “ 3 ป.” “บิ๊กป้อม” ยึด พปชร. “บิ๊กตู่-บิ๊กป๊อก” ไป “รวมไทย สร้างชาติ”


.

ยิ่งใกล้ ประชุมAPEC
ยิ่งเกิด กระแสข่าวสะพัด ว่า พลเอกประยุทธ์ ตัดสินใจ อนาคตทางการเมืองของตนเอง แล้ว
เรื่อง “ไปต่อ” น่ะไปอยู่แล้ว
แม้จะเป็นนายกฯได้แค่ อีก2 ปี ในสมัยหน้า
แต่การไปต่อ โดยที่ต้อง “ยอมเสียเพื่อน” เช่นที่ พลเอกประยุทธ์ เคยพูดไว้เมื่อ ไม่นานมานี้ ที่ถูกตีความว่า จะสื่อถึง “ยอม เสียพี่” หรือเปล่า
จนทำให้มีข่าวสะพัดว่า พลเอกประยุทธ์ เลือกที่จะแยกทาง กับ พลเอกประวิตร พี่ใหญ่ ผู้เป็นร่มเงาให้ตนเอง มาตลอดชีวิตรับราขการทหาร จนมาเป็นนายกฯ ในยุค คสช.

พลเอกประยุทธ์ จะย้ายไปเป็น แคนดิเดท นายกฯของ “พรรครวมไทยสร้างชาติ”
พรรคที่ พลเอกประยุทธ์ ส่งสัญญาณ ให้”แรมโบ้ เสกสกล” ไปจัดตั้ง ใช้ชื่อ ที่เป็น นโยบายของตนเอง ก่อนมารีแบรนด์ดิ้ง ใหม่ ให้ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกฯ เป็นหัวหน้าพรรค

ข่าวเริ่มหนาหู หลังจากที่ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน แกนนำ พปชร. ที่ถูกมองว่าเป็น สายจันทร์โอชา ไม่เช้าบ้านป่ารอยต่อฯ มานานกว่า 2 เดิอน และไม่ลงพื้นที่กับ พลเอกประวิตร เลย แต่ ไปกับ พลเอกประยุทธ์ ทุกครั้ง

หลังมีข่าวว่า จะย้ายไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ กับ พลเอกประยุทธ์ แม้จะยังเคารพ พลเอกประวิตร อยู่ก็ตาม แต่รับไม่ได้กับ คนรอบข้าง บิ๊กป้อม ที่มีอืทธิพล ใน พปชร. โดยเฉพาะ คะแนนโหวต ตอนโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจฯ

ข่าวยิ่งสะพัดหนัก เมื่อ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ลาออกจาก พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีข่าวว่า จะไปอยู่ พรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมๆกับ ผลโพลล์ คะแนนนิยม ในภาคใต้ ของ พลเอกประยุทธ์ ยังคงดีอยู่

มีรายงานว่า ในช่วงที่ พลเอกประยุทธ์ ยังลังเล อยู่นั้น มีคำพูดบางประโยค ของ กองเชียร์ กองหนุนคนสำคัญ ที่เป็นอดีตทหาร ให้ข้อคิดว่า พลเอกประยุทธ์ ว่า จะต้องกล้าตัดพี่ใหญ่ แยกทาง แล้วเดินด้วยขาของตัวเอง พร้อมกองหนุนพิเศษ ที่พร้อมเดินไปด้วยกัน ทั้งแบบ เปิดหน้า และแบบใต้ดิน

ทั้งนี้ อาจเป็นเพราะข้อมูล บางประการ ทำให้ พลเอกประยุทธ์ หวาดระแวงว่า พลเอกประวิตร อาจจับมือกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล หลังการเลือกตั้ง หลังจากที้มีข่าวลือ เรื่อง บิ๊กดีล มาตลอด

แถมทั้ง พลเอกประวิตร เองก็ไม่เคยปฏิเสธ แต่กลับ เปิดประตูไว้เสมอว่า เป็นเรื่องของอนาคต บ้าง ยังไม่ถึงเวลา บ้าง จนล่าสุด ระบุว่า รอให้เลือกตั้งก่อน

ก็ยิ่งทำให้ มีการเชื่อมโยงกัน กับ ท่าที นพ.ชลน่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่หยั่งกระแส ประกาศ พร้อมจับมือ พปชร. แต่ต้อง ไม่มีชื่อ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ

ทั้งยังมีข่าวสะพัดมาตลอดว่า พลเอกประวิตร ต้องการให้ พลเอกประยุทธ์ พักผ่อน หลัง ศาลรธน. วินิจฉัย นับวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ ปี2560 จึงยังไม่ครบ8 ปี จนตีความกันว่า จะอยู่ได้แค่ ปี2568

แต่ พลเอกประยุทธ์ ยังยืนกราน ที่จะไปต่อ จนทำให้ พลเอกประวิตร ลำบากใจ เพราะต่องการ เดินเกมการเมือง ไปในเส้นทางที่ตั้งใจ

ว่ากันว่า แผนของ พลเอกประวิตร คือการสร้างความปรองดอง บ้านเมืองจะได้สงบ ไม่เช่นนั้น ก็ต่อสู้กันไปสิ้นสุด หลังจากที่สู้กันมาตั้งแต่ ก่อนรัฐประหาร 19 กย.2549 จนมาถึง รัฐประหาร 22 พค2557 จนปัจจุบัน

การ จับมือ พรรคเพื่อไทย คือ กลยุทธ์ ในการ โดดเดี่ยว พรรคก้าวไกล

ด้วยเพราะมีข่าวว่า มิชชั่น ที่ พลเอกประวิตร ได้รับมา คือการสร้างความปรองดอง และปกป้องสถาบันฯ

แต่หากเดินเกม แบบ 8 ปี ที่ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกฯ ยิ่งทำให้ พรรคก้าวไกล ได้รับความนิยมมากขึ้น แนวคิดแบบก้าวไกล แพร่กระจาย มากขึ้น ซึ่งไม่เป็นผลดี ต่อความมั่นคง

พลเอกประวิตร ก็คือ ทหารเก่า ที่ยังมีมิชชั่น หลังเกษียณ ตั้งแต่ การตั้งมูลนิธืป่ารอยต่อ 5 จ.ภาคตะวัยออก ตามพระรสชเสาวนีย์ สมเด็จพระพันปีหลวง ตั้งแต่ ปี2548 จนปัจจุบัน

จนมาถึง มิชชั่น ในการสร้างความปรองดอง ความสงบสุข ภายใต้การถุกโจมตีว่า อยากจะเป็นนายกฯ และอยากมีอำนาจ

ขณะที่ พลเอกประยุทธ์ ทหารเสือฯเก่า ก็ยังมีมิชชั่น ในการปกป้องสถาบันฯ และ สกัดกั้นฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้คุมอำนาจรัฐ ยึดเก้าอี้ นายกฯ และอาจรวมถึง การสกัดกั้น การกลับมาของ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร

เพราะแนวทางที่ไม่ตรงกัน นี่เอง จึงทำให้ เกิดกระแสข่าว การแยกทางเดินของ พี่น้อง 3 ป.

ป.ประยุทธ์ กับ ป.ป๊อก พลเอกอนุพงษ์ จะจับมือ ไปด้วยกัน

ขณะที่ ป.ประวิตร พี่ใหญ่ ที่แวดล้อมไปด้วย อดีตทหาร อดีตตำรวจ ที่ล้วนเคยมีปัญหา กับ พลเอก ประยุทธ์ ทั้งสิ้น ก็จะนำทัพ พปชร. เดินไปในแนวทางที่ต้องการ

สว.250 คน ในสภา ที่ยังมีสิทธิ์ โหวตเลือกนายกฯไก้ จะต้องเลือกข้างไปด้วยว่า จะเลือก บิ๊กป้อม หรือ บิ๊กตู่

แม้ว่า ก่อนหน้านี้ พลเอก ประยุทธ์ จะเคยพูด ขณะสวมกอด พลเอกประวิตร หลังประชุม ครท.ว่า “ไม่ไปไหน หรอก มีเรื่องให้ง้อ ได้ทุกวัน” ก็ตาม

แต่ตอนนี้ ข่าวสะพัดถึง การตัดสินใจของ พลเอก ประยุทธ์ ที่จะปลดแอก ตัวเอง ออกจากการอยู่ใต้ร่มเงา ของพี่ใหญ่ ในการแยกทาง ไปกับ ทีมจันทร์โอชา ทั้ง อดีตทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และนักการเมือง จากหลายพรรคหลายกลุ่ม แม้แต่ จากในพรรคพปชร. โดยยังคงมี พี่ป๊อก เป็น เพื่อนคู่คิด ต่อไป

ท่ามกลางการจับตามองว่า เกมนี้ของ พี่น้อง 3 ป. เป็นกลยุทธ์ “แยกกันเดิน รวมกันตี” ที่จะเห็นหลังการเลือกตั้ง

หรือว่า ทางใคร ทางมัน แยกกันเดิน แบบเด็ดขาด และจะกลายเป็น คู่แข่งในทางการเมือง ชิงอำนาจ ชิงเก้าอี้ นายกฯ กันเอง

แม้ว่า ความสัมพันธ์ สายไย เยื่อไย ความเคารพนับถือกัน ยังมีอยู่ ก็ตาม

แต่ กาล ในอนาคต ไม่มีใครอาจหยั่งรู้ ว่า พี่น้อง 3 ป. จะปิดตำนาน แผงอำนาจ3 ป. แบบไหน เพราะการแยกทางเดิน ย่อมหมายถึง ความแข็งแกร่ง ของอำนาจ ที่ลดน้อยลง

แต่ที่แน่ๆ เสียงของประชาชน ในการเลือกตั้ง ครั้งหน้า จะเป็นตัวตัดสิน อนาคต 3 ป. ว่าจะได้ ไปต่อ หรือ พอแค่นี้


error: Content is protected !!