มหกรรมกีฬาใหญ่อีกรายการอย่าง “เวิลด์เกมส์ 2022” ที่เมืองเบอร์มิงแฮม รัฐอลาบามา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ให้การสนับสนุนการเข้าร่วมการแข่งขันของนักกีฬา ซึ่งทีมนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันใน “เวิลด์เกมส์ 2022” จำนวน 9 ชนิดกีฬา ได้แก่ กีฬาทางอากาศ, ยูยิตสู, เปตอง, ซูโม่, บิลเลียดสปอร์ต, มวยไทย, วูซู, เอ็กซ์ตรีม และ ฟลอร์บอล รวมนักกีฬาทั้งสิ้น 32 คน
หลังจากปิกฉาก “เวิลด์เกมส์ 2022” ทัพนักกีฬาไทยทำผลงานได้ 4 เหรียญทอง 3 เหรียญเงิน 2 เหรียญทองแดง ได้อันดับที่ 18 ซึ่งเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย และอันดับ 1 อาเซียน และสำหรับกีฬามวยไทย คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง จาก อนึ่ง คัฒมารศรี (รุ่น 67 กก.ชาย), ธเนศ นิตุธร (รุ่น 71 กก.ชาย) และ 1 เหรียญเงิน จาก วีระศักดิ์ ทาระขจัด (รุ่น 63.5 กก.ชาย) นับเป็นความสำเร็จต่อเนื่องหลังจากที่ใน “เวิลด์เกมส์ 2017” ที่ประเทศโปแลนด์ ได้มีการบรรจุกีฬามวยไทยเป็นครั้งแรก นักชกไทยก็คว้ามาได้ 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญ ทองแดง
ดร.สุปราณี คุปตาสา ผู้จัดการกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ เปิดเผยว่า มวยไทยได้รับความนิยมอย่างมากในการแข่งขัน “เวิลด์เกมส์ 2022” โดยบัตรเข้าชมการแข่งขันถูกจำหน่ายหมดอย่างรวดเร็วและมีผู้ชมเต็มความจุของสนาม โดยสหพันธ์มวยไทยนานาชาติ (อิฟม่า) ผู้ดูแลการจัดมวยไทยดำเนินการได้อย่างมีมาตรฐาน วงปี่พาทย์ที่บรรเลงตลอดการแข่งขันก็เป็นการเล่นดนตรีสด มีการไหว้ครู ก้มกราบแสดงความเคารพ ความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา ซึ่งเป็นการส่งเสริม และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมไทย
ทั้งนี้การส่งเสริมมวยไทยสู่สายตาจากชาวโลก เป็นนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบนโยบายให้กับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พัฒนาและขับเคลื่อนมวยไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าทางวัฒนธรรมไทย เพราะมวยไทยถือว่าเป็นอีกหนึ่ง ซอฟต์เพาเวอร์ที่สำคัญของประเทศไทย
ดร.สุปราณี คุปตาสา กล่าวว่า การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ น้อมรับนโยบายสำคัญนี้มาปฏิบัติ ซึ่งถือเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย และได้แสดงให้นานาชาติเห็นว่า มวยไทยมีศักยภาพที่จะก้าวไปสู่ชนิดกีฬาที่บรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ได้ในอนาคต
