เงียบกริ๊บ!
ส่องทวิตเตอร์ “บิ๊กบี้”
ไม่เคลื่อนไหว
หลัง ฟ้าผ่า ททบ.5
แผ่นดินไหว ถึง บก.ทบ.
จับตา เมื่อ ผบ.ทบ. สงบนิ่ง
กลางพายุข่าวลือ
กระแสข่าวลือ ที่มีโอกาส เป็นไปได้น้อยมาก แต่ก็ยังคงสะพัดใน กองทัพบก ทำให้ บิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ถูกจับตามอง
แม้ทุกอย่างยังคงปกติ คือ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ยังคงทำหน้าที่ในแบบเดิม สไตล์เดิม และ เลี่ยงที่จะเจอหน้านักข่าว เลี่ยงการถูกสัมภาษณ์
แต่ที่แปลกไป คือ ทวิตเตอร์ ส่วนตัวของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ นิ่งสนิท ตั้งแต่ 28 มีค.2565 ที่ผ่านมา ไม่มีการโพสต์ ทงีต หรือ รีทวีต เช่นที่เคย
หากย้อนไทม์ไลน์ จะพบว่า ในช่วงนี้น เป็นช่วงที่ เกิดเรื่องวุ่นๆใน ททบ5 จนเกิด
เหตุการณ์ฟ้าผ่า เพราะขัดนโยบายรัฐบาล ในการเสนอข่าวที่ไม่เป็นกลาง กรณีสงครามรัสเซียกับ ยูเครน
จนถึงขั้นที่ มีกระแสข่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ คำรามเตือน ให้งดเสนอข่าว แต่ยังขัดขืน แถมมีข่าวเข้าหู นายกฯ เรื่องเสียงวิพากษ์วิจารณ์
จนทำให้ บิ๊กตี๋ พล.อ.รังษี กิตติญาณทรัพย์ ผอ.ททบ5 เพื่อนรัก ตท.22 ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ต้องแสดงสปิริตลาออก หลังมีข่าวว่า ไปวิพากษ์วิจารณ์นายกฯ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบ ตัดตอนไม่ให้ลุกลามถึง เก้าอี้ ผบ.ทบ.
โดยที่ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไม่ได้คัดค้านการลาออก และก็ช่วยอะไรไม่ได้ นอกจากต้องยอมเซ็นอนุมัติให้ลาออก
ข่วงปรากฏการณ์ฟ้าผ่า ททบ.5 นั้น ทำให้เกิดแผ่นดินไหว มาถึงกองบัญชาการกองทัพบก ถึงเก้าอี้ ผบ.ทบ. เลยทีเดียว
จากนั้น พล.อ.ณรงค์พันธ์ ดูจะเก็บตัวเงียบมากกว่าเดิม และไปร่วมงาน และประชุมกับ นายกฯ แบบไม่ขาด จากเดิมที่ติดภารกิจเสมอๆ เพราะนอกจากเป็น ผบ.ทบ.คอแดง แล้ว ยังเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ904 จึงมีภารกิจ และการประชุมมากขึ้น
การที่ ทวิตเตอร์ ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ไม่มีเคลื่อนไหว ก็ถูกมองว่า ผิดปกติ
เพราะ ที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ มักจะเป็นการ รีทวีต ข่าวสาร หรือข้อความ ในการโปรโมท ภารกิจทหาร โดยเฉพาะของ ทบ. และการเทิดทูนสถาบันฯ
รวมทั้ง การต่อต้าน ฝ่ายผู้ชุมนุม พวกต่อต้านสถาบันฯ ที่สะท้อนจุดยืนการเป็น ทหารอาชีพ และทหารพระราชา
สาเหตุที่ ทวิตเตอร์ไม่ขยับ อาจเพราะใครถูกสะกิดเตือนมาหรือไม่ หรือว่า เพราะเหตุผลอื่น
แต่มีรายงานข่าวจาก ทบ. ว่า อาจเป็นเพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ เปลี่ยนไลน์ใหม่ อาจเกิดปัญหา เรื่องโทรศัพท์มือถือ หรือไม่
เพราะในช่วง เม.ย.บรรดา ผบเหล่าทัพ บางคน และบิ๊กๆ ทหาร ต่างเปลี่ยนไลน์ เพิ่อรองรับ การโยกย้ายตำแหน่งใหม่ วาระ เม.ย.2565 ที่ต้องทำไลน์กลุ่มใหม่
แต่ทว่า จาก 28 มี.ค. จนวันนี้ ก็เกือบเดือนแล้ว ที่ บิ๊กบี้ ยังไม่ขยับ หรือว่า รอให้ตกเป็นข่าวก่อน จึงจะกลับมาทวีตใหม่
ที่ยิ่งทำให้กระแสข่าวลือ การแต่งตั้งโยกย้าย ก.ย.นี้ ถูดจับตามอง
ที่คิดกันว่า เป็นไปได้ยาก พล.อ.ประยุทธ์ จะกล้า เปลี่ยนตัว ผบ.ทบ. ทั้งๆที่ยังไม่เกษียณ เพราะการย้าย ผบ.ทบ. หรือ ย้าย ผบ.เหล่าทัพ เป็นเรื่องที่มักไม่กระทำกัน นอกเสียจาก เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หรือ กลัวจะถูกรัฐประหาร
แต่ในอดีต ความพยายามที่อยากจะเปลี่ยน ผบ.ทบ. จนทำให้เกิดการรัฐประหาร เกิดขึ้น หลายครั้ง มาแล้ว
อีกทั้ง ตอนนี้ ไม่มีตำแหน่งว่าง นอกจาก ปลัดกลาโหม ที่ บิ๊กหน่อย พลเอกวรเกียรติ รัตนานนท์ จะเกษียณราชการ
เพราะการจะขยับ ผบ.ทบ. มาเป็นปลัดกลาโหม ก็จะดูเหมือนว่า มีความผิด ถูกจับแขวน เพราะไม่ได้คุมกำลัง
แต่กระแสข่าวลือนี้ ก็ลือมานานแล้ว เพราะ ระหว่าง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ตท.22 กับ บิ๊กต่อ พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผช.ผบ.ทบ. รุ่น น้องตท.23 ตัวเต็ง ผบ.ทบ.คนต่อไป ก็ดูจะไม่เป็นเนื้อเดียวกัน เท่าใดนัก ด้วยเรื่องคาใจในอดีต ที่บอกเล่าต่อๆกันมา
อีกทั้ง บทบาทของ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา บนเก้าอี้ ผบ.ทบ. ก็ ไม่เข้าตา กองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ เท่าใดนัก ยิ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องไปต่อ และเป็นนายกฯสมัยที่ 3 ก็จะต้อง มี ผบ.เหล่าทัพ ที่ไว้ใจได้พันเปอร์เซ็น และเป็น เต็มร้อย ใจถึงพึ่งได้ เคียงข้าง
จึงทำให้ พล.อ.เจริญชัย น้องรักสายทหารเสือราชินี ของนายกฯถูกจับตามองว่า จะขึ้นมาเป็น ผบ.ทบ.ในโยกย้าย กบ.นี้ หรือไม่
จากเดิมที่ ต้องรอ อีกกว่า1 ปี เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ มีอายุราชการถึง ตค2566 และหากได้ขึ้นเป็น ผบ.ทบ. ก็จะได้เป็นแค่ ปีเดียว ก็จะเกษียณ ตค.2567 แล้ว
จึงเกิดการวัดพลังกันขึ้น ระหว่าง ตท.22 เพิ่อน พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ ตท.23 เพื่อน พล.อ.เจริญชัย
เพราะ พล.อ.ณรงค์พันธ์ ก็นั่งผบ.ทบ. มาจะ 2 ปี แล้ว จนเกิดกระแสข่าว ใน ทบ. เชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ ขยับ บิ๊กแก้ว พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทหารสูงสุด ที่นั่งมา 2 ปีแล้ว ขยับขึ้นไปเป็นปลัดกลาโหม ในปีสุดท้ายก่อนเกษียณ ต.ค.2566 ที่จะทำให้กลายเป็น “ปลัดกลาโหมคอแดง” คนแรก
เพราะตามหลักสากล ถือว่า เป็น ผบ. ทหารสูงสุด ที่อาวุโส แล้วก็ ขยับพล.อ.ณรงค์พันธ์ ขึ้นไปเป็น ผบ.ทหารสูงสุด และเป็นทหารคอแดง อยู่แล้ว
เพื่อเปิดทางให้ พล.อ.เจริญชัย ได้เป็น ผบ.ทบ.เร็วขึ้น และนานขึ้น ทันช่วงการ เปลี่ยนแปลงทางการเมือง ที่จะมีการเลือกตั้งในต้นปีหน้า
แต่ทว่า พล.อ.ประยุทธ์ ได้พบปะทานข้าวเย็น กับ ปลัดกลาโหม ผบ.ทหารสูงสุด และ ผบ.เหล่าทัพ มาอย่างน้อย 2 ครั้งแล้ว และครั้งล่าสุด เมื่อ ต้น เม.ย .ที่ผ่านมา ก็ได้พบปะพูดคุยกับ พล.อ.ณรงค์พันธ์ แล้ว ก็ไม่น่าจะมีอะไร ในกอไผ่
แต่ทว่า กระแสข่าว เปลี่ยน ผบ.ทบ.ก็ยังสะพัดใน ทบ. ที่ทำให้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ และ พล.อ.เจริญชัย อาจจะมองหน้ากันไม่สนิทใจนัก
เพราะเชื่อว่า พล.อ.เฉลิมพล ก็ไม่อยากลุกจาก ผบ.ทหารสูงสุด ไปเป็นปลัดกลาโหม
อีกทั้ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ ก็ใช่ว่า จะไม่มี กองหนุน ที่ทำให้เก้าอี้ ผบ.ทบ ก็แข็งแรงไม่น้อย เพราะการที่ขึ้นมา เป็น ผบ.ทบ.ได้ ก็ย่อมไม่ธรรมดา ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะขยับ ก็ต้องวางแผน และใช้พลังมากเป็นพิเศษ หากทำไม่สำเร็จ อาจทำให้ซวนเซ และกระทบ อนาคตของ พล.อ.เจริญชัย ไปด้วย
ที่สำคัญ มีบิ๊กหนุ่ม พล.อ.สนิธชนก สังขจันทร์ รองปลัดกลาโหม ที่เป็นทั้ง ลูกรักบิ๊กป้อม และน้องรัก นายกฯ จ่ออยู่แล้ว
แต่เพราะเป็น ตท.24 และมีอายุราชการถึง ตค2568 จึงทำให้ เกรงกันว่า อาจถูกรุ่นพี่ มาเสียบ ขัดตาทัพเสียก่อน จากที่คาดว่า จะนั่งยาว 3 ปี เลย
แต่กรณีของ ททบ.5 นั้น ก็ถือว่า เป็นการ เอ็กเซอร์ไซส์ อำนาจ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้ ผบ.เหล่าทัพ เห็นแล้ว ว่า อำนาจยังอยู่ในมือ นายกฯ และ รมว.กลาโหม เป็นอำนาจ ที่มองเห็นได้
แล้วยิ่งเป็นช่วยส่งท้ายรัฐบาล เช่นนี้ อะไร ก็ไม่แน่
แต่ การเงียบ สงบนิ่ง ของ ผบ.ทบ. ก็เป็นอะไร ที่มองข้าม ไม่ได้เช่นกัน