เพชร ตัด เพชร
เทียบ ประวัติ
ว่าที่ หัวหน้า CIA ทัพไทย
คนใหม่ ยุค 5 G
“บิ๊กอ้อ-เสธ.มล”
มือข่าวชั้นพระกาฬ
ชิง ผบ.ศรภ.
รับ มิชชั่น APEC-ว.5
.
สูสี พี่น้องสายเลือด เตรียมทหาร จปร. ที่มีการข่าวในสายเลือด 2 แคนดิเดท ชิงเก้าอี้ ผู้บัญชาการศูนย์รักษาความปลอดภัย (ผบ.ศรภ.) กองบัญชาการกองทัพไทย
ที่ต้องมา คุมหน่วยข่าวกรองสำคัญ หรือที่เรียกว่า เป็น หน่วยCIA ของ กองทัพไทย ที่ ทำงานข่าวกรอง ข่าวลับ ด้านความมั่นคง การปกป้องประเทศ การต่อต้านก่อการร้าย ความ เคลิ่อนไหวภายนอกประเทศ และ ในประเทศ
รวมถึง การปกป้องสถาบันฯ และ ถวายการอารักขา สถาบันพระมหากษัตริย์ และ พระบรมวงศานุวงศ์ ในการเสด็จพระราชดำเนิน ในการพระราชกรณียกิจต่างๆ ด้วย
คนที่จะมาเป็น เจ้าบ้านเลขที่17 รามอินทรา แทน บิ๊กน้อย พลโท วัฒนะ พลจันทร์ ผบศรภ. สายเลือดรบพิเศษ ที่จะขยับขึ้น พลเอก นั้น จึงมีความสำคัญยิ่งในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะ ประเทศไทยกำลังจะเป็นเจ้าภาพประชุม APEC 2022 ที่มีการประชุมย่อย ตลอดทั้งปี และโดยเฉพาะ ผู้นำชาติต่างๆ จะมาประชุม ที่กรุงเทพฯ ในเดือน พย. นี้ เท่านั้น ที่ ศรภ. จะต้องรับผิดชอบการดูแลความปลอดภัย
ที่จะสานต่อ สิ่งที่ พลโท วัฒนะ ได้ทำไว้แล้ว ต่อไป
จึงทำให้มีรายงานข่าวว่า พลโท วัฒนะ เชื่อมือ และไว้วางใจ จึงเสนอชื่อ บิ๊กอ้อ พลตรี ทวีศักดิ์ มณีวงศ์ รอง ผบ.ศรภ. ขึ้นเป็น ผบ.ศรภ.คนใหม่ เพราะทำงานร่วมกันมาก่อน อยู่แล้ว
พลตรี ทวีศักดิ์ เตรียมทหาร 24 จปร.35 เป็นทหารหมวกแดง รบพิเศษ แต่กำเนิด
และเติบโตใน หน่วยรบพิเศษตลอด เป็น ทั้ง ผบ.ร้อย.รบพิเศษ รพศ.4พัน.2 , รองผบ.กรมรบพิเศษที่5( รพศ.5 ) และ ผอ.กองข่าว หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ (นสศ.) รองเสธ.นสศ.
ก่อนขยับออกมาเป็น รองผอ.ศูนย์ประสานงานการปฏิบัติที่ 3 กอ.รมน. (รอง ผอ.ศปป.3 )สำนักงาน ปรมน.ทบ. ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายฯ งานการข่าวกรอง มาเป็น รองผบ.ศรภ. เมื่อโยกย้าย เม.ย.2564 ที่ผ่านมา และถูกมองว่า เพื่อมารอเป็น ผบ.ศรภ.คนต่อไป
มีรายงานว่า ตอนที่เป็นรบพิเศษ อยู่ นสศ.นั้น พลตรี ทวีศักดิ์ ได้รับภารกิจ ในการปฏิบัติการพิเศษ ที่หน่วยอื่นทำไม่ได้ เพราะเป็นงานสำคัญๆ ด้านความมั่นคงของประเทศชาติ และงานที่ยากลำบาก อันตราย ห่างไกล ทำงานต่อเนื่อ ยาวนาน
ถือเป็นความภูมิใจของนักรบพิเศษ ทุกคน ที่ได้ทำคุณงามความดี ให้บ้านเกิดเมืองนอน แต่เป็นภารกิจลับ จึงไม่อาจเล่าให้ใครฟังได้ แม้แต่คนในครอบครัว
รวมทั้ง งานสร้างความมั่นคงชายแดน ปัญหาผู้หลบหนีภัยจากการสู้รบ ปัญหาชนกลุ่มน้อย
และการแก้ปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ ในการติดตามกลุ่มก่อการร้าย และงานสืบสวน ปราบปราม และจับกุมยาเสพติดรายสำคัญๆ
และ ได้ทำงานในส่วนประสานงานชายแดน ศปก.ทบ. ด้านยาเสพติดและก่อการร้าย
และร่วมมีบทบาทในด้านข้อมูลข่าวสาร จนนำไปสู่การปฏิบัติในการเข้าจับกุม “ฮัมบาลี” แกนนำกลุ่มก่อการร้ายเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือJI เมื่อปี 2546 ด้วย
ที่สำคัญ ยังได้รับมิชชั่นในการติดตามและพิสูจน์ทราบ กลุ่มต่อต้านสถาบันฯ และรัฐบาล อีกด้วย เรียกได้ว่า เป็น มือข่าวชั้นพระกาฬ คนหนึ่งเลยทีเดียว
ขณะที่ มีแคนดิเดท คนสำคัญ คือ เสธ.มล พลโท วิมล คำอิ่ม อดีต ผู้บัญชาการหน่วยข่าวกองทางทหาร (ผบ.ขกท.) ก็ถูกเสนอชื่อจาก ทบ. ให้ บิ๊กแก้ว พลเอกเฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด มาพิจารณา
เพราะ พลโทวิมล เป็นทหารเหล่าข่าว และทำงานข่าวกรอง มาตั้งแต่เรียนจบ ตท26 จปร.37 ก็มาอยู่ ขกท. เลย ผ่านมาทุกตำแหน่ง ทำงานการข่าว มาตลอด กว่า 20ปี
เรียกได้ว่า มีงานการข่าวอยู่ในสายเลือด รอบรู้งานด้านการข่าวเป็นอย่างดี เพราะเกาะติดมาตลอด ทั้ง ในประเทศ ชายแดน และ นอกประเทศ
ปัจจุบัน พลโท วิมล เป็น ผู้อำนวยการสำนักการข่าว สำนักงานปฏิบัติภารกิจรักษาความมั่นคงภายใน (ปรมน.) และทำหน้าที่ ผู้อำนวยการสำนักการข่าว กอ.รมน. อีกหน้าที่หนึ่งด้วย
และเป็นทีมการข่าวสายความมั่นคง ที่ต้องไปประชุมความมั่นคง และประชาคมข่าวกรอง กับ บิ๊กป้อม พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ทุกสัปดาห์ เรียกได้ว่า เป็นที่คุ้นเคย ของ บิ๊กป้อม พี่ใหญ่ที่คุมสายมั่นคง
และยัง ทำงานการข่าว ความเคลื่อนไหวของขบวนการต่อต้านสถาบันฯและกลุ่มม็อบต่างๆ มาต่อเนื่องด้วย และเป็นคนเขียนรายงาน บทวิเคราะห์ด้านการข่าว เสนอ ผู้บังคับบัญชาด้วยตนเอง
จึงน่าจับตามองว่า พลเอก เฉลิมพล จะตัดสินใจเลือกใคร หลัง หารือกับ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. รวมทั้ง บื๊กช้าง พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม แล้ว เพราะ แม้จะเป็นตำแหน่ง ในบก.ทัพไทย แต่ทว่า เป็นหน่วยข่าวกรอง ของประเทศ จึงต้องร่วมกันพิจารณา อย่างรอบคอบ
งานนี้ อาจไม่ได้ดู แค่ที่ ฝีมือ และ อาจต้องดูที่ คอนเนคชั่น และ ผู้บังคับบัญชา เห็นเหมาะสม ด้วย