วันพุธ, 7 มิถุนายน 2566

“ผบ.ทบ.มิติใหม่”

มองเส้นทาง “บิ๊กบี้”
จาก “บูรพาฯ “ มา “รอ.”
จาก ติมอร์ฯ มา”เขาพระวิหาร”
วาง บทบาท “ผบ.ทบ.มิติใหม่”
ทิ้งระยะห่าง การเมือง-รัฐบาล
ย้ำ หน้าที่ พิทักษ์ราชัน-ปกป้องประชา
ใช้ ทวิตเตอร์ เป็นอาวุธ

บิ๊กบี้ พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. เกิดวันปีใหม่ 1 มกราคม 2506 เป็นคนกรุงเทพฯ เป็นลูกทหาร ชั้นผู้น้อย บิดาเคยเป็นพลทหาร ไปรบเวียดนาม

จบจากโรงเรียนอำนวยศิลป์ และสอบเข้าเตรียมทหาร รุ่น22 จปร.33 จบมาในปี 2529 และไปเติบโตจาก ร. 2 พัน2 รอ. เป็น ผู้บังคับหมวดกองร้อยอาวุธเบา

จากนั้นได้ไปเรียนต่อที่Fort Benning สหรัฐอเมริกา จึงต้องกลับมาเป็นอาจารย์โรงเรียนศูนย์การทหารราบ

ก่อนลงหน่วยเป็นรองผู้พัน ร 31 พัน3 รอ. และย้ายเป็นรองผู้พัน ร 31 พัน1รอ. และไปทำหน้าที่เป็นรองผู้บังคับกองพันทหารราบ กองกำลังเฉพาะกิจ 972 ร่วมกับกองกำลังนานาชาติInterFET ในติมอร์ตะวันออก

และเคยไปเป็นอาจารย์สอนวิชาทหารโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าฯ ที่ทำให้ได้พบกับ “อาจารย์เชอร์ฯ” พลตรีหญิงพิมพ์พิศา ภรรยา ที่ตอนนั้นก็เป็นอาจารย์อยู่เช่นกัน

บิ๊กบี้ เป็น ผบทบ. ที่ไม่ได้เรียนวิทยาลัยการทัพบก (วทบ.) แต่ไปเรียน วิทยาลัยการทัพอากาศ (วทอ.) รุ่น43

บิ๊กบี้ ได้เเป็นผู้บังคับกองพัน ถึง2 กองพัน จาก ผบ.ร.31 พัน1 รอ. แล้วก็ไป เป็นผบ.31 พัน3 รอ. หน่วยพร้อมรบเคลื่อนที่เร็ว RDF ยุคแรกๆ ของกองทัพบก

ก่อนเติบโต จนเป็น ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ (ผบ.ร.31รอ.) ในช่วงที่มีปัญหาชายแดนไทย- เขมรในพื้นที่เขาพระวิหาร พลเอกณรงค์พันธ์ ได้เป็นผู้บังคับหน่วยRDF ไปปฎิบัติหน้าที่ป้องกันชายแดนที่ สุรินทร์และศรีสะเกษ

บิ๊กบี้ ระวังถูกจับตามอง ว่าจะเป็น แม่ทัพภาค1 ในอนาคต และ ผบ.ทบ.เมื่อขึ้นเป็น
ผู้บัญชาการกองพลที่1 รักษาพระองค์ (ผบ.พล.1รอ.) หน่วยขุมกำลังสำคัญของกองทัพภาค1 และเป็นหน่วยรักษาพระองค์ หลักของ ทบ. ก่อนที่ต่อมา จะมีการตั้ง ฉก.ทม.รอ.904

จากนั้น ทุกคนก็หลีกทางให้ บิ๊กบี้ ขึ้น รองแม่ทัพภาค1 และ เป็นแม่ทัพภาค1 แม้แต่ นายทหารเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหารรุ่น 22 ที่เคยเป็นตัวเต็งแม่ทัพภาค1 สายทหารเสือฯ ก็ยังต้องหลบทางให้

ก่อนฉลุยขึ้น ผช.ผบ.ทบ. และ เป็น ผบ.ทบ. ต่อจาก บิ๊กแดง พลเอกอภิรัชต์ คงสมพงษ์ รุ่นพี่ ตท.20 ที่เป็น ผบ.ทบ. ทหารคอแดง และ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 คนแรก โดยที่ พลเอกณรงค์พันธ์ ก็เป็น ผบทบ.คอแดงคนที่2 และ ทำหน้าที่ ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ต่อ นั่งนาน 3 ปี เกษียณ ตค2566

พลเอกณรงค์พันธ์ นอกจากได้รับการโปรดเกล้าแต่งตั้งเป็นราชองครักษ์เวรตั้งแต่ปี 2539 จนปัจจุบันแล้ว

ในปี 2555 ยังได้เป็นนายทหารพิเศษประจำหน่วยรักษาพระองค์ กรมทหารราบที่1 มหาดเล็กรักษาพระองค์

และในปี 2561 เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ กองบัญชาการทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ด้วย

พลเอกณรงค์พันธ์ เป็น ผบ.ทบ. คอแดง ที่นำกองทัพพลิกบทบาท ในการมีระยะห่างกับ ฝ่ายการเมือง และรัฐบาล เป็นทหารพระราชาและทหารของประชาชนโดยมีม็อตโต้ ว่า “พิทักษ์ราชัน ปกป้องประชา รักษาแผ่นดิน”

โดย หลีกเลี่ยงการแสดงออกถึงการสนับสนุน พลเอกประยุทธ์ ต่างจากในยุค พลเอกอภิรัชต์ คงสมพง๋์ และงดให้สัมภาษณ์เรื่องการเมือง หลังจากเคยตอบคำถามเรื่องปฏิวัติรัฐประหารแล้วว่ามีโอกาส เป็น ศูนย์ และติดลบ จากนั้น ก็หลีกเลี่ยงการให้สัมภาษณ์สื่อมาตลอด จนในช่วงโควิดฯ ที่เงียบหาย

พลเอกณรงค์พันธ์ ใช้การแสดงออกผ่าน ทวิตเตอร์ส่วนตัว ที่สะท้อนแนวคิดและจุดยืน ของการเป็นทหารที่ปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และช่วยเหลือประชาชน

ล่าสุด หลังการเลือกตั้งซ่อม หลักสี่-จตุจักร ที่ พรรคเพื่อไทย ชนะ ส่วน พปชร. แพ้ลุ่ย คะแนนไม่ถึงหมื่น

พลเอกณรงค์พันธ์ พูดในที่ประชุม สรุป
สถานการณ์ประจำวันเมื่อวันจันทร์ 31มค.2565 ว่า ชื่นชมการเลือกตั้ง ครั้งนี้ ว่า เป็นไปตามวิถีทางการเมือง ในการใช้สิทธิ์ของประชาชน การเสนอนโยบายของผู้สมัครมีบรรยากาศที่ดี “เป็นมิติใหม่ทางการเมือง” ที่ไม่ปรากฏการให้ข้อมูลกล่าวร้าย และเป็นแนวทางการเมือง ที่ประเทศไทยมุ่งหวังจะก้าวไปสู่ในอนาคต ชี้ คนได้รับเลือก คือ ผู้ที่เข้าใจในความคิดของประชาชน
และ ให้การดูแลช่วยเหลือประชาชน
อย่างจริงจังและต่อเนื่อง

.เมื่อ 27 มค.2565 พลเอกณรงค์พันธ์
ได้รับรางวัล เกียรติยศจักรดาว
สาขาบริหารการปกครองและเสริมสร้างความมั่นคงแห่งชาติ2565

error: Content is protected !!