.
“บิ๊กป้อง”
“พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์”
จ่อนั่ง ผบ.ทอ.คนที่28
เดินตามรอยเท้าพ่อ
ส่องเส้นทาง
จาก นักบิน นักกรีฑา
สู่ เก้าอี้ แม่ทัพฟ้า
สร้างเรคคอร์ดผู้นำ นักเรียนบังคับบัญชา-หัวหน้านักเรียน- ประธานรุ่น
บิ๊กป้อง พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ที่คาดหมายว่า จะได้เป็น ผบ.ทอ.คนใหม่ หลัง ผ่านที่ประชุมคณะกรรมการ 7 เสือกลาโหม แล้ว
โดย บิ๊กป้อง จะเป็น ผบ.ทอ. คนที่ 28 ของ ทอ. ต่อจาก พลอากาศเอก แอร์บูล สุทธิวรรณ ที่จะเกษียณ 30 ก.ย.2564 นี้
และยังจะเป็น ผบ.ทอ. คนแรก ที่มาจาก ประธานที่ปรึกษา ทอ. อัตรา พลอากาศเอกพิเศษ
แถมยังเป็น ผบ.ทอ. คนที่ 2 ของ ตระกูล ธูปะเตมีย์ ตามคำทำนายของ พระผู้ใหญ่ และ นายทหารอากาศชั้นผู้ใหญ่รุ่นเก่าๆ
พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้บิดา เป็น ผบ.ทอ.คนที่10 เมื่อปี 2525-2530
นั่นหมายถึง พลอากาศเอก นภาเดช เป็น ผบ.ทอ. ในอีกกว่า30 ปี ให้หลัง และ เป็น ผบ.ทอ. หลังจากที่ บิดา เสียชีวิตไปเมื่อปี2562 และไม่ได้รับรู้ว่า ลูกชาย ได้ เป็น ผบ.ทอ. เช่น บิดา
แน่นอนว่า พลอากาศเอก ประพันธ์ ผบ.ทอ. ที่หล่อ สมาร์ท คิอ ไอดอล ของ ลูกชายคนนี้ เขาอยากเป็น ทหารอากาศ และอยากเป็นนักบิน เพราะ คุณพ่อ
แล้วเขาได้เดินตามรอยเท้าพ่อ ด้วยการ เป็นนักบิน ทอ. รวมทั้ง การไปเรียนโรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ สหรัฐอเมริกา (Maxwell AFB) และได้จารึกชื่อ บนHall of Fame ของ United States Air University, Maxwell AFB ในฐานะศิษย์เก่าดีเด่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการรับราชการ เช่นเดียวกับบิดา
ด้วยความเป็นนายทหารร่างสูงใหญ่ แถมเป็นลูก นายทหารชั้นผู้ใหญ่ จึงทำให้ พลอากาศเอก นภาเดช ดูมีลักษณะความเป็นผู้นำ เพราะไม่ว่า ไปเรียนที่ไหน ก็จะได้เป็นประธานรุ่นเสมอ ตั้งแต่ เรียนโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 21 ได้รับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่เป็น นักเรียนบังคับบัญชา
และเรียน ที่ โรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 28 จบปริญญาตรี วิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิศวกรรมอากาศยาน และ ได้รับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นนักเรียนบังคับบัญชา
ที่สำคัญคือ ยังเป็นนักกรีฑา ได้เหรียญทองวิ่ง 100 ม., 200ม.,4X 100ม.
และ 4×400ม. ในการแข่งขันกีฬาระหว่างโรงเรียนทหาร – ตำรวจ 3ปีซ้อน และทำลายสถิติทุกรายการ จนได้รับเสื้อสามารถชั้นที่1 ของโรงเรียนนายเรืออากาศ และยัง ได้รับการคัดเลือกเป็นนักกีฬาดีเด่นของการแข่งขันกีฬาระหว่าง โรงเรียนทหาร – ตำรวจ 3ปีซ้อน
จุดหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ ของ พลอากาศเอก นภาเดช คือ การได้ทุนกองทัพอากาศไปศึกษาต่อ ที่ โรงเรียนทหารประเทศฝรั่งเศส แต่สละสิทธิ์ เพราะอยากจะเป็นนักบิน แบบบิดา
จนก่อกำเนิดเป็น Snowy นักบิน F5 และ F16 แห่งทัพฟ้าไทย
จากนั้น เขาเรียน โรงเรียนการบิน อ.กำแพงแสน จังหวัดนครปฐม และ ได้รับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นหัวหน้าศิษย์การบิน
ต่อมา สอบได้ทุนกองทัพอากาศไปเรียนการบินที่โรงเรียนการบิน กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา (Williams AFB) 2 หลักสูตร คือ หลักสูตรศิษย์การบิน (Undergraduate Pilot Training Course) และ หลักสูตรนักบินพร้อมรบกับเครื่องบิน F-5E/F (F-5E/F Transition and Modification Course)
แล้วโรงเรียนนายทหารชั้นผู้บังคับฝูง รุ่นที่71 ได้รับการคัดเลือกให้ปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานนักเรียน
ก่อนเข้าเรียน โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ รุ่นที่ 38 สอบได้ลำดับที่1
ได้รับทุนกองทัพอากาศไปศึกษาที่โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ สหรัฐอเมริกา (Maxwell AFB)
ได้รับการพิจารณาจากกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาให้จารึกชื่อ
ในห้องเกียรติยศ (Hall of Fame) ของ United States Air University, Maxwell AFB ในฐานะศิษย์เก่าดีเด่นที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง ในการรับราชการ
เข่นเดียวกับ พล.อ.อ.ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีต ผบ.ทอ. ผู้บิดา ที่ได้รับการจารึกชื่อ
รวมทั้ง อดีต ผบ.ทอ. พล.อ.อ.อมร แนวมาลี และ พล.อ.อ.ธนนิตย์ เนียมทันต์
นอกจากนั้น ยังเรียน ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต (MPA)
และ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.)รุ่นที่57 ได้รับเลือกให้เป็นประธานนักศึกษา วปอ.รุ่นที่ 58 และเป็นทหารอากาศคนแรกที่ได้รับเลือกเป็นประธานรุ่น
พลอากาศเอก นภาเดช ปฏิบัติหน้าที่
นักบินประจำการพร้อมรบ (Operational Pilot) (F-5 E/F) ฝูงบิน 102 กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
นักบินประจำการพร้อมรบ (Operational Pilot) (F-16 A/B) ฝูงบิน 103 กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
อาจารย์โรงเรียนเสนาธิการทหารอากาศ
ผู้บังคับฝูงบิน 103 กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา (F-16 A/B) นายทหารฝ่ายเสนาธิการ กองการฝึก กองบัญชาการยุทธทางอากาศ ทำหน้าที่เลขานุการการฝึกร่วม/ผสม Air Thamal ระหว่าง ทอ.ไทยและ ทอ.มาเลเซีย
ตามเส้นทางทัพฟ้าแล้ว พลอากาศเอก นภาเดช ได้เป็นผู้ช่วยทตู ฝ่ายทหารอากาศประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ผู้บังคับการกรมนักเรียนนายเรืออากาศรักษาพระองค์ โรงเรียนนายเรืออากาศ
ทำหน้าที่เป็นผู้บังคับการกรมทหารรักษาพระองค์ที่ 2 พิธีสวนสนาม ของหน่วยทหารราชวัลลภรักษาพระองค์ (กรม นนร.รอ. รร.จปร.,กรม นนร.รอ. รร.นร.และ กรม นนอ.รอ. รร.นอ.)
ผู้บังคับการกองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี
และได้รับความไว้ใจให้ดำรงตาแหน่งเป็นเวลา 4 ปี โดยมี VVIP ประทับ
ภายในพื้นที่กองบินเป็นเวลา 3 ปี และอยู่ในช่วงเวลาที่มีความขัดแย้ง ทางการเมืองระหว่างสีเสื้ออย่างรุนแรงในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี
เคยเป็น รองเจ้ากรมยุทธการทหารอากาศ เป็นผู้อานวยการฝึกร่วม/ผสม การฝึก Cope Tiger (ไทย, สหรัฐอเมริกา, สิงคโปร์), Air Thamal (ไทย, มาเลเซีย), Elang Thainesia (ไทย, อินโดนีเซีย)
เป็นหัวหน้าทีมกองทัพอากาศ นำเครื่องบิน C-130 รวม2 ลำ พร้อมเครื่อง อุปโภคบริโภคไปช่วยรัฐบาลและผู้ประสบภัยประเทศฟิลิปปินส์ ในนาม ประเทศไทยจากภัยภิบัติพายุไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
ต่อมา เป็น หัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจาเสนาธิการทหารอากาศ ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจาผู้บัญชาการทหารอากาศ
และเป็น รองผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ ผู้บัญชาการกรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ(คปอ.)
โดยได้ริเริ่มโครงการพัฒนากรมควบคุมการปฏิบัติทางอากาศ อย่างเต็มรูปแบบ ให้เป็นหน่วยงานที่ทันสมัย สง่างาม และมีประสิทธิภาพ สมกับเป็นหน่วยรบ ที่สำคัญของกองทัพอากาศในทุกด้าน อาทิ อาคารสถานที่, อุปกรณ์, ระเบียบวินัยข้าราชการและการสวัสดกิาร
เป็นประธานจัดสร้าง “พระพุทธศาสดาประชานาถ” ในโอกาสครบ 100 ปี ทิวงคต จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ ภูวนารถ กรมหลวงพิศณุโลกประชานารถ พระบิดากองทัพอากาศ เพื่อนาไปประดิษฐาน ณ ยอดดอยอินทนนท์
ก่อนที่ จะมาเป็น ประธานคณะที่ปรึกษากองทัพอากาศ ครองอัตรา “พลอากาศเอกพิเศษ”และกลายเป็นว่าที่ผู้บัญชาการทหารอากาศ คนที่ 28
ในด้านครอบครัว พลอากาศเอก นภาเดช มีภริยา ชื่อ คุณเป้ ปัญญดาว ธูปะเตมีย์ และลูกสาว เป็น หมวดพลอย เรืออากาศตรีหญิง กนกนันท์ ธูปะเตมีย์ และมี พี่สาว เป็นนายทหารอากาศ พลอากาศตรีหญิง พันธ์นิดา ธูปะเตมีย์
ถือเป็น อีกหน้าประวัติศาสตร์ของ ครอบครัว ธูปะเตมีย์ สายเลือดทัพฟ้า เลยทีเดียว
Cr.llpch.news