Tokyo 2020
“บิ๊กป้อม” ประชุมบอร์ดการกีฬาฯ
ชวนคนไทย ส่งแรงเชียร์ นักกีฬาไทย ในโอลิมปิก-พาราลิมปิก Tokyo 2020
23 ก.ค.-8 ส.ค.64
ยัน นักกีฬา มีขวัญกำลังใจดี
กำชับสมาคมฯ ดูแลนักกีฬา-จนท. ป้องกันโควิดฯ รับรายงานนักกีฬา มีขวัญกำลังใจดี TV รวมการเฉพาะกิจ ถ่ายทอดสด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ผ่านระบบ Video Conference
พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นายกฯ เปิดเผยว่า ที่ประชุม ได้มีการพิจารณาเรื่องสำคัญ เพื่อการพัฒนาการกีฬาของไทย โดยได้เห็นชอบ ร่างตัวชี้วัดการบันทึกข้อตกลง ประเมินผลการดำเนินงานรัฐวิสาหกิจ ประจำปี2565
ทั้ง การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ การพัฒนากีฬาเพื่อการอาชีพ การใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของนักกีฬา สู่ความเป็นเลิศ เป็นต้น
ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตร ได้กำชับ กกท.ให้จัดทำแผนการยกระดับกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ของเป้าหมายในปี2565 เพื่อเรียกความเชื่อมั่น ภายหลังสถานการณ์ โควิด-19 พร้อมเน้นย้ำให้ใช้ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา เป็นหลักในการพัฒนานักกีฬา อย่างจริงจัง ด้วย
สำหรับการแข่งขันกีฬา โอลิมปิกเกมส์ และพาราลิมปิกเกมส์ Tokyo 2020 ที่ ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งยังอยู่ในสถานการณ์ การแพร่ระบาดของโควิด-19 พล.อ.ประวิตร จึงได้ขอให้สมาคมกีฬาแต่ละประเภท กำกับ ดูแลนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ อย่างใกล้ชิด
พร้อมทั้งให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกัน การแพร่ระบาดของโค-19 ของประเทศเจ้าภาพ โดยเคร่งครัด
ในการประชุมวันนี้ ได้รับรายงานความคืบหน้า จาก นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬา และ รองศาสตราจารย์ ดร. สุพิตร สมาหิโต รอง หัวหน้าคณะฯ ซึ่งอยู่ ณ ประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าร่วมประชุมด้วย
โดยยืนยันความพร้อมของนักกีฬาทีมชาติไทย และมีขวัญกำลังใจที่ดี ก่อนการแข่งขัน พล.อ.ประวิตร ได้เน้นย้ำ ขอให้ดูแลเรื่องความเป็นอยู่ สวัสดิการ และให้กำลังใจนักกีฬา พร้อมเจ้าหน้าที่ ทุกคน อย่างเต็มที่ด้วย
พล.อ.ประวิตร ได้กล่าว เชิญชวนคนไทย ร่วมส่งแรงเชียร์นักกีฬาโอลิมปิก และพาราลิมปิก ไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นกำลังใจ ให้แก่นักกีฬาทุกคน ทุกประเภท ซึ่งจะทำการแข่งขันในห้วงวันที่ 23 ก.ค.- 8 ส.ค.64 โดยจะมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ให้ประชาชนได้รับชม ตลอดการแข่งขันเพื่อให้กองทัพนักกีฬาทีมชาติไทย พิชิตชัยชนะ และสร้างชื่อเสียงกลับสู่ประเทศไทยได้ อย่างภาคภูมิใจ เหมือนเช่นในอดีตที่ผ่านมา
