“บิ๊กเบิ้ม” นำกำลัง ศปน.ตำรวจ
บุกรัง แอพฯเงินกู้ และ แก๊งค์ทวงหนี้ ย่านสุทธิสาร
2 ชาวจีน เป็นเจ้าของ
จ้าง 53 คนไทย
ยึดของกลางอื้อ
พบข้อมูลลูกหนี้ 8,600 กว่าราย
มียอดเงินหมุนเวียน 20 ล้านกว่าบาทต่อวัน
ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ (ศปน.ตร.) เข้าค้นออฟฟิศทวงหนี้ ย่านสุทธิสาร พบนายทุนต่างชาติ และพนักงานคนไทย กว่า 50 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก นาซ่า การ์เด้น ซ.20 มิถุนา 11 Nasa Garden
พลตำรวจเอกปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร. เผยว่า สืบเนื่องจาก ภาวะวิกฤต เศรษฐกิจในช่วงโควิด ทำให้ประชาชนได้รับความลำบาก มาใช้จ่าย หมุนเวียนในครอบครัว จึงเป็นเหตุให้แอพลิเคชั่น เงินกู้นอกระบบ ระบาดอย่างหนัก
อีกทั้งเมื่อลูกหนี้ ผิดนัดชำระ ก็จะมีการโทรไปข่มขู่และส่งSMS ประจานให้ได้รับความอับอาย เสื่อมเสียชื่อเสียง
พล.ต.อ.ปิยะ ในฐานะ ผู้อำนวยการ ศูนย์ปราบปรามการประทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ (ศป..ตร.) จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยดำเนินการกวาดล้างอย่างจริงจรัง โดยเฉพาะ แอพลิเคชั่น เงินกู้นอกระบบ ที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนในวงกว้าง
ต่อมา พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. ในฐานะผู้ช่วยเลขาฯ ศปน.ตร. สั่งการให้พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.2 บก.ปอศ. สืบสวนจับกุมแอพลิเคชั่น Ubath เนื่องจากในห้วงที่ผ่านมา ทาง บก.ปอศ.ได้รับเรื่องเบาะแสร้องเรียนจากประชาชนเข้ามาจำนวน มาก จนกระทั่งฝ่ายสืบสวนสามารถสืบสวนทราบว่า แอพลิเคชั่น ยูบาท ( U Baht ) นั้น มีการมาเช่าสำนักงาน บริเวณชั้น 8
ของโรงแรมแห่งหนึ่ง ย่านสุทธิสาร จึงได้เฝ้าสะกดรอยดูพฤติกรรมาอย่างต่อเนื่อง
ต่อมาวันนี้ (19
มี.ค.2564) ช่วงบ่าย เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้นำหมายหมายค้นต่อศาล อาญา ที่ ๓๐๑/๒๕๖๔ ลง ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๔ เข้าทำการตรวจค้นสำนักงานดังกล่าว
ผลการตรวจคันที่ชั้น 8 ของโรงแรมดังกล่าวซึ่งถูกใช้เป็น สำนักงานในการลักลอบประกอบธุรกิจแอปกู้เงินนอกระบบ มีการแบ่งซอย ห้องเป็น 6 ห้อง พบ ผู้บริหารชาวจีน จำนวน 2 ราย พนักงาน ทวงหนี้ (คนไทย) จำนวน 53 ราย
และได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 62 เครื่อง และ
โทรศัพท์ที่ใช้ทวงหนี้ จำนวน 47 เครื่อง กำลังทวงหนี้ในแอพเคชั่น เงินกู้นอกระบบอยู่
และจากการตรวจสอบทราบว่า สถานที่ดังกล่าวนี้นอกจากจะเป็นที่ตั้งของแอพลิเคชั่น ยูบาท
( U Baht ) แล้ว ยังมีแอพอื่นๆที่เกี่ยวข้องอีกจำนวน 10 แอพ ได้แก่.speed wallet , cash 24, .Marscash , .bee bath max @.cash 24 b.u-wallet o.yoo card e.cash map, .take cash ,.pp cash , lend cash และ เงินฟ้าผ่า
เบื้องต้นตรวจสอบพบข้อมูล
ลูกหนี้ 8,600 กว่าราย มียอดเงินหมุนเวียน 20 ล้านกว่าบาทต่อวัน
จากการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า มีคนไทยสัญชาติจีน2 คน คอยทำหน้าที่ เป็นผู้จัดการ และ
ผ่ายเทคนิค คอยควบคุมดูแลพนักงาน
ในส่วนคนไทยนั้นมีหัวหน้าคอยทำหน้าที่ บริหารจัดการ จำนวน3 คน ,รับสมัครพนักงาน จำนวน 2 คน และล่ามแปลภาษา จำนวน 2 คน
กก.5 บก.ปอศ. จึงได้ทำการจับกุมผู้ต้องหาทั้งสินจำนวน 9 ราย ประกอบด้วย
๑. MR.Zhag fei hong หรือ นาย จาง เฟย หงส์ อายุ ๓๐ ปี
๒. MR.Wez feng zhu หรือ นาย จู เว่ย ฟง อายุ ๓๙ ปี
๓. นายอชิรวีร์ สงวนนามสกุล อายุ ๒๘ ปี
๔. นายจิงแหย่ สงวนนามสกุล อายุ ๓๐ ปี
๕. น.ส.ดรุณี สงวนนามสกุล อายุ ๒๙ ปี
๖. นายวิษณุ สงวนนามสกุล อายุ ๓๔ ปี
๗. น.ส.ธีรดา สงวนนามสกุล อายุ ๒๒ ปี
๘. นายพชร สงวนนามสกุล อายุ ๓๑ ปี
๙. นายจิรวัฒน์ สงวนนามสกุล อายุ ๓๐ ปี
พร้อมตรวจยึด อุปกรณ์คอมพิวเตอร์จำนวน 62 เครื่อง และโทรศัพท์ที่ใช้ทวงหนี้ จำนวน 47 เครื่อง ไว้เป็นของกลาง
โดยทำการแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ประกอบธุกิจสินเชื่อโดยไม่ได้รับอนุญาต เรียกดอกเบี้ยเกิน
กว่าที่อัตรากฎหมายกำหนด และประกอบธุรกิจทวงหนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม ประกาศคณะปฏิวัติ
ฉบับที่ 58 ลงวันที่ 26 มกราคม 2515 พระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา
พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ.2558
โดยมีระวางโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน
2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสืบสวนขยายผลต่อไป หากพบการกระทำความผิดหรือมีผู้กระทำความผิดเพิ่มเติม จะได้ทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมและดำเนินคดีอย่างเฉียบขาด ในทุก
ฐานความผิด รวมทั้งติดตามเส้นทางทรัพย์สินของผู้ต้องหาที่ได้มาจากการกระทำความผิด เพื่อเป็น
การขุดรากถอนโคนการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างเด็ดขาด
ทั้งนี้ พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย รอง ผบ.ตร./ผอ.(ศปน.ตร ) ฝากประชาสัมพันธ์ถึงประชาชนผู้ได้รับ
ความเดือดร้อน จากการเป็นเหยื่อของแอพพลิเคชั่นเงินกู้นอกระบบ หรือนายทุนปล่อยกู้นอกระบบ
สามารถร้องเรียนหรือแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ที่ ศปน.ตร. โทร. 1599

