“บิ๊กจิ๋ว”เปิดใจ
ปม “ศักดิ์ศรี”
เหตุ ฟ้อง “หญิงหลุยส์”
เรียกคืนทรัพย์สิน
จำนองบ้าน-ยกบ้านให้คนอื่น
แทนที่จะเก็บให้ลูกหลาน
เผยเหตุหย่า เพราะไม่ดูแล. ห้ามใช้นามสกุล ยงใจยุทธ
ลั่น ผมรักในศักดิ์ศรีตระกูล ไม่ให้ใครมาเหยียดหยาม
ภูมิใจ 40 ปี เป็นทหาร
ผ่านหลายสนามรบ
ปลื้ม ผลงาน ช่วยเพื่อนบ้านแก้ปัญหา
.
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดใจครั้งแรก หลังมีคดีความฟ้องร้องกับ คุณหญิงพันธ์เครือ ลิมปิภมร อดีตภรรยา เรื่องทรัพย์สิน ว่า มันก็ไม่มีปัญหาใด นอกจากว่าหนึ่ง สิ่งที่เราเห็นไว้ในสัญญาในการหย่าโดยมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้คุณหญิงพันธุ์เครือ มีเจตนารมณ์เพื่อให้แบ่งสรรปันส่วน กับลูกหลาน แต่ปรากฏว่าคุณหญิงพันธุ์เครือ ได้นำไปขายและจำนอง โดยไม่รู้ว่า เอาเงินไปทำอะไร
ส่วนการที่ คุณหญิงพันธ์เครือ ไม่ยอมเปลี่ยนนามสกุล ยังใช้นามสกุล”ยงใจยุทธ” นั้น พลเอกชวลิต กล่าวว่า ซึ่งเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง. หญิงชายที่แต่งงานกันเมื่อหย่าขาดจากกัน ต้องกลับไปใช้นามสกุลเดิมของตัวเอง
แต่คุณหญิงพันธุ์เครือ เป็นชาวอินโดนีเซีย และถูกนำมาเลี้ยงโดย หลวงนรอัฎบัญชา เป็นบุตรบุญธรรม และใช้นามสกุล ลิมปภมร เมื่อหย่าขาดจากกันแล้วคุณหญิงพันธุ์ เธอต้องไปใช้นามสกุลเดิม
พลเอกชวลิต กล่าวว่า ตนเองไม่พอใจ ที่ มีการนำบ้านที่จังหวัดนครพนม ไปมอบให้กับคนอื่น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวพันทางสายเลือด
นี่เป็นปัญหาที่มีขึ้นหลังจากการหย่า
“ความจริงผมไม่ได้ต้องการจะหย่า แต่คุณหญิงพันธุ์เครือ ชวนผมไปหย่า หลังจากนายอำเภอได้รับทราบ ก็ไม่สบายใจ แต่ร่างใบหย่าขึ้น และพยายามเกลี้ยกล่อมไม่ให้เกิดการหย่าร้าง
แต่คุณหญิงพันธุ์เครือ เป็นคนแรกที่เซ็นชื่อในใบหย่า ผมไปทราบเบื้องหลังมาพอสมควร แต่ไม่อยากพูด”
พลเอกชวลิต กล่าวว่า ผมเป็นลูกผู้ชายชาติทหาร ต้องเคารพสตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งภรรยา
แต่การนำบ้านที่ผมยกให้เอาไปขาย มอบให้กับคนอื่น ลูกชายและลูกสาวผมไม่เคยได้รับ นี่คือปัญหาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตัวผม ผมรักในศักดิ์ศรีของตระกูล ไม่สามารถให้ใครมาเหยียดหยามหรือทำลายได้
ตลอดชีวิตผมทำแต่ความดี ทำงานให้กับหลวงให้กับประชาชน ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาโดยตลอด 40 ปีในสนามรบ เริ่มตั้งแต่การปราบปรามพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย มาจนถึงการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทยกับลาว
จนกระทั่งทำให้เกิดความสงบในกัมพูชา และผมก็ทำให้เสนาบดีฮุนเซนเป็นนายกรัฐมนตรี มาได้กว่า 40 ปี
หลังจากนั้นก็ไปสร้างความสัมพันธ์กับลีกวนยู ซึ่งเป็นพ่อของลีกวนลุง นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ในขณะนี้ และไปแก้ปัญหาให้อดีตนายกมหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เรื่อง พรรคคอมมิวนิสต์ที่ก่อกวนในประเทศมาเลเซีย ผมก็ทำจนสำเร็จ
ผมมีแต่ความรู้สึกที่ดี มอบให้คุณหญิงพันธ์เครือ แต่คุณหญิงพันธุ์เครือไม่ดูแลผม แม้แต่ตอนที่ผมป่วยหกล้ม เมื่อปี 59 ก็ไม่ดูแลผม” พลเอกชวลิต กล่าว