วันพุธ, 31 พฤษภาคม 2566

ทัพฟ้า เร่ง สร้าง “น้องบุญอุ้ม” เครื่องยกศพ

ทัพฟ้า
เร่ง สร้าง “น้องบุญอุ้ม”
เครื่องยกศพ
เพิ่ม หลัง รพ. ร้องขอ
แต่ ปรับแผน ใช้ยก ผู้ป่วยติดเตียง แทน ศพผู้ป่วย โควิดฯ
แนะ รัฐ ต่อยอดนวัตกรรม ที่ ทอ.คิด ช่วงCoViD หลายอย่าง มาผลิต ใช้ต่อได้

“เสืออากาศ 24/7”
เผย โรงพยาบาล หลายแห่ง ขอให้ทอ. สร้าง “น้องบุญอุ้ม” เครื่องยกศพ ให้ เพราะเอาไว้ใช้ยกผู้ป่วยติดเตียง ได้ด้วย นอกเหนือจากใช้ยกศพ ไม่ใช่แค่ผู้ป่วยติดเชื้อ โควิดฯ แต่ ศพ ผู้ป่วย ทั่วไปด้วย…..เตรียมสร้างอีก 10 เครื่อง แต่คงไม่อาจ ทำแจกได้ครบทุกรพ. ที่มีเป็นพัน เผย ต้นทุนเครื่องละ 25,000-40,000 บาท แนะรัฐ ควรส่งเสริมเอกชน ให้ผลิต น้องบุญอุ้ม ให้รพ.ต่างๆ ถือว่า ช่วยเศรษฐกิจ หลังโควิดฯ ด้วย เพราะถือเป็น ภูมิปัญญาไทย

.
“เสืออากาศ24/7” คอลัมนิสต์ นายทหารอากาศ เขียนบทความ เล่าเรื่อง “น้องบุญอุ้ม” เครื่องยกร่าง ยกศพ ที่ กรมช่างอากาศ สร้างขึ้น เพื่อใช้ยกศพ ผู้ป่วยโควิดฯ ตามคำร้องขอของ รพ. ที่ชายแดนใต้ ว่า ได้ใช้ประโยชน์อย่างมาก แม้ไม่ได้มี ศพผู้ป่วยโควิดฯ แต่ใช้ เคลื่อนย้าย ผู้ป่วยติดเตียง ได้เป็นอย่างดี

กำเนิด “น้องบุญอุ้ม” ชื่อเดิมเรียกกันว่า “เครื่องยกศพ”

ถือกำเนิดมาจากความคิดเกี่ยวกับการผลิตสร้างเครื่องมือสำหรับ “ยกศพ” ของผู้เสียชีวิตด้วยโรค Covid-19 ใน3จ.ชายแดนใต้ ให้กับโรงพยาบาลใน 3 จชต

อันเนื่องมาจากว่า คราใดที่มีผู้เสียชีวิตจากโรค Covid-19 แล้วก็จะเป็นการยากยิ่งสำหรับน้องๆพยาบาล กับเจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆที่จะเข้าไปทำการยกศพเพื่อบรรจุเข้าถุงศพป้องกันมิให้เชื้อไวรัส Corona แพร่กระจายออกไปอย่างไร้การควบคุม

การยกศพผู้เสียชีวิตจากโรคCovid-19นั้นเป็นการยากยิ่ง-มีขั้นตอนการดำเนินการมากยุ่งยากซับซ้อน-ต้องใช้น้องๆพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ตัวน้อยๆรวมกันอย่างน้อย8คนในการจัดการ
ยิ่งศพใดมีขนาดใหญ่น้ำหนักมากเกินกว่า130กก ซึ่งก็หมายความว่าจะต้องใช้คนเพิ่มมากขึ้นซึ่งก็ต้องใช้เครื่องมืออุปกรณ์สวมใส่ป้องกันการติดเชื้อในปริมาณมากขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่มากมายสิ้นเปลืองตามมา

การยกศพ ต้องกระทำด้วยความละเอียดรอบคอบใช้เวลานานซึ่งทำให้น้องๆพยาบาลกับเจ้าหน้าที่ตัวน้อยๆต้องกังวลอยู่กับโอกาสที่จะติดเชื้อ ขวัญกำลังใจของผู้ปฏิบัติงานถดถอยลง ไม่เป็นผลดีต่อระบบสาธารณสุข

กองทัพอากาศ. โดยกรมช่างอากาศได้คิดค้นพัฒนาทดลองทดสอบผลิตสร้าง “เครื่องยกศพ” หรือ “น้องบุญอุ้ม” ในราคาที่ไม่แพง จนสำเร็จเป็นที่เรียบร้อย

หลังจากนั้นก็ได้นำไปเสนอให้เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ใน3จชต ได้พิจารณาความเหมาะสมในการใช้งานเป็นการเบื้องต้น

ซึ่งต่อมาก็ได้มีการนำกลับมาปรับปรุงในบางประการ ในความต้องการเฉพาะที่ว่า “มิใช่เฉพาะเพื่อใช้ – ยกศพ- เท่านั้น

แต่จะใช้สำหรับ “ยกคนไข้ทั่วไป” ด้วย

ดังนั้น “เครื่องยกศพ” จึงต้องถูกปรับเปลี่ยนคุณลักษณะบางประการให้สามารถตอบสนอง ภารกิจดังกล่าวจนสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี

ในการนี้ “เครื่องยกศพ” จึงได้รับการขนานนามใหม่ชื่อว่า “น้องบุญอุ้ม”

“น้องบุญอุ้ม” 1 เครื่อง ถูกนำส่งให้กับโรงพยาบาลในจังหวัดภาคใต้ของไทยไปเรียบร้อยแล้ว

หลังจากการส่งมอบไปแล้ว. ก็มีเสียงตอบรับ จากเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ว่า “สามารถใช้งานได้ดี และต้องการในจำนวนเพิ่มเติมอีกหลายเครื่อง”

โดยเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์(ใน3จชต )ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า “จะนำไปใช้กับการเคลื่อนย้าย-ปรนนิบัติ ดูแลคนไข้ติดเตียง/คนไข้ติดเชื้ออื่นๆ”

ซึ่งคนไข้ประเภทนี้มีอยู่ในทุกโรงพยาบาล

กองทัพอากาศ โดยกรมช่างอากาศจึงได้ระดมขีดความสามารถขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเร่งทำการผลิตสร้าง “น้องบุญอุ้ม” เพิ่มเติมขึ้นมาอีกครั้ง10เครื่อง (เป็นอย่างน้อย)เพื่อแจกจ่ายให้ กับโรงพยาบาลใน 3 จชต และให้กับโรงพยาบาลทหารอากาศ ที่มีความจำเป็นต้องการนำไปใช้งานเร่งด่วน

โรงพยาบาลไทย
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย-วิทยาลัยแพทย์ รวม 22 แห่ง
โรงพยาบาลและศูนย์แพทย์(ไม่ผลิตแพทย์) 6 แห่ง
โรงพยาบาลศูนย์ 41 แห่ง
โรงพยาบาลส่วนกลาง 18 แห่ง
โรงพยาบาลส่วนภูมิภาคระดับศูนย์ 34 แห่ง
โรงพยาบาลทั่วไป 86 แห่ง
โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช 21 แห่ง
โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ 19 แห่ง
โรงพยาบาลชุมชน 723 แห่ง
โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล … แห่ง
โรงพยาบาลเฉพาะทาง 3 แห่ง
โรงพยาบาลสภากาชาดไทย 2 แห่ง
โรงพยาบาล กทม 2 แห่ง
โรงพยาบาลองค์กรส่วนท้องถิ่น 6 แห่ง
โรงพยาบาลทหารบก 37 แห่ง
โรงพยาบาลทหารเรือ 9 แห่ง
โรงพยาบาลทหารอากาศ 13 แห่ง
โรงพยาบาลตำรวจ 4 แห่ง
โรงพยาบาลรถไฟ-ท่าเรือ-ไฟฟ้า-คลัง-ยุติธรรม-มหาชน รวม 6 แห่ง
รวมโรงพยาบาลทั้งสิ้น 1,052 แห่ง เชื่อว่าล้วนต้องการ “น้องบุญอุ้ม” ทั้งสิ้น

“น้องบุญอุ้ม” บนความต้องการในปริมาณ/ในจำนวนที่เพียงพอสำหรับโรงพยาบาลข้างต้น

ซึ่งหากสำรวจความต้องการอย่างแท้จริงแล้วเชื่อว่า อาจมีความต้องการรวมมากถึง 2,000-3,000 เครื่องเลยทีเดียว

กำเนิด “น้องบุญอุ้ม”ถูกสร้างขึ้นมาได้ง่ายในราคาไม่แพง บนคุณประโยชน์ทางการแพทย์มหาศาล โดยใช้ “ปัญญาไทย” ในการผลิตสร้าง ในการนี้ มิต้องพึ่งพาปัญญาของชาวต่างชาติแม้แต่น้อย

องค์ประกอบของ “น้องบุญอุ้ม” มีดังนี้-ชิ้นส่วนโลหะ-เครื่องกลไฟฟ้าหรือเครื่องกลทั่วไป-ชิ้นส่วนประกอบประเภทยาง(ยางพาราหรือพลาสติกก็ได้)-ชิ้นส่วนคอมโพสิต

ระบบที่ใช้-ระบบกลศาสตร์-ระบบสมองกล(มีหรือไม่มีก็ได้) -ระบบไฟฟ้า

ราคาต้นทุน -ประมาณ 25,000-40,000 บาท (แล้วแต่ Option)

การคิดค้นวิจัยพัฒนาทดลองทดสอบผลิตสร้างรับรองการใช้งานสามารถกระทำได้ไม่ยาก สามารถผลิตสร้างทั้งหมดได้ในประเทศ จะผลิตสร้างในโรงงานขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ได้

Thai Sub Con เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมภายในประเทศที่มีขีดความสามารถในการผลิตสร้างงานโรงงานสามารถ ลงมือดำเนินการได้ทันที โดยต่างมีเครื่องจักรโรงงานและเงินทุนตั้งต้น พร้อมลงมือทันที (เฉกเช่นกับที่กองทัพอากาศโดยกรมช่างทหารอากาศที่ได้ลงมือทำมาแล้วและกำลังจะผลิตสร้างต่อไปตามจำนวนที่ได้รับการร้องขอ)

(Thai Sub Con ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากเนื่องจากถูกสั่งลดการผลิต/เกือบไม่มีการผลิตเนื่องจากผู้สั่งจ้างผลิตซึ่งก็คือนักลงทุนชาวต่างชาติ(ญี่ปุ่น)ยกเลิก/ลดสั่งผลิตลงตามสภาพเศรษฐกิจกรณีสงครามโรคระบาดCovid-19)

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า รัฐโดยกระทรวงสาธารณสุข กับบรรดาโรงพยาบาลทั้งหลาย(ภายใต้การจัดการประเทศไทยในสถานการณ์สงครามโรคระบาดCovid-19)ต่างต้องช่วยกันสนับสนุนซื้อหานำเอา “น้องบุญอุ้ม” ไปใช้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง

หากเป็นดังนี้แล้ว วงจรเศรษฐกิจนับตั้งแต่การคิดค้นวิจัยพัฒนาทดลองทดสอบผลิตสร้าง(ต้นแบบ)รับรองการใช้งาน-จนถึงการใช้งาน “น้องบุญอุ้ม” ก็จะครบวงจรซึ่งก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจไทยทางด้านปัจจัยดำรงชีพที่4 ยารักษาโรค/เวชภัณฑ์จะสามารถได้เติบโตเจริญก้าวหน้าได้ (มูลค่าเศรษฐกิจ “น้องบุญอุ้ม” = 2,000-3,000 x 25,000-40,000 = 50,000,000 – 75,000,000 บาท)

หากประเทศไทยลงมือผลิตยา เวชภัณฑ์ – สร้างเครื่องมือแพทย์สำหรับการแพทย์ในทุกแขนงสาขาในประเทศไทยก็เชื่อว่าจะเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจมหาศาล… (500,000,000,000 – 1,000,000,000,000 บาท) ก็จะหมายถึงว่าประเทศไทย จะได้มาซึ่งขีดความสามารถในการให้บริการด้านการแพทย์/พยาบาลที่ดี/นำมาซึ่งระบบสาธารณสุขที่ดีซึ่งเป็นต้นน้ำของความอยู่ดีกินดี มีสุขของคนไทยเราทั้งชาติกับเป็นต้นน้ำมีระบบเศรษฐกิจที่เติบโตในประเทศเป็นของตนเองนั่นเอง

ปัญญาไทย- นอกเหนือจาก “น้องบุญอุ้ม” แล้ว !!!

กองทัพอากาศในห้วงสงครามโรคระบาด Covid-19 ได้ใช้ขีดความสามารถทางวิศวกรรม(อากาศยาน: Sensor-C2)ทำการคิดค้นวิจัยพัฒนาทดลองทดสอบผลิตสร้างรับรองการใช้งานนวัตกรรมทางด้านการแพทย์/พยาบาลมาใช้แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Corona ดังนี้
-Thermo Scan “น้องบุญสุข” ตรวจอุณหภูมิร่างกาย
-หุ่นยนต์ “น้องถาดหลุม” ส่งอุปกรณ์การแพทย์
-เครื่องช่วยหายใจ “น้องบุญช่วย” ปั๊มอากาศเข้าปอด
-ชุดคลุมเตียงคนไข้ความดันลบ “น้องฝาชี” ดูดอากาศติดเชื้อเข้าฟอกให้สะอาด
-Taxi Bulkhead Beerier สร้างระยะห่างคนขับแท๊กซี่-ผู้โดยสาร
-ที่กดแอลกอฮอล์ล้างมือแบบเหยียบ “อินทรีย์อนามัย” ทำความสะอาดมือ
-Air Track “น้องบุญตาม” ติดตามกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อ
-โดรนกระจายเสียง “ต้องจักจั่น” กระจายเสียงแจ้งเตือนมิให้ผู้คนจับกลุ่มพร้อมกับให้ความรู้เกี่ยวกับอันตรายของโรค Covid-19
-เครื่องปันสุขแบบจดจำใบหน้า “Give & Take” แจกเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้เดือดร้อนพิษCovid-19
-เครื่องATMแจกข้าวสารแบบจดจำใบหน้า แจกข้าวสารแก่ผู้เดือดร้อนพิษCovid-19

บรรดาสินค้านวัตกรรมจาก “ปัญญาไทย” ทางด้านการแพทย์/พยาบาลข้างต้นที่มันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยซึ่งสามารถถูกคิดค้นวิจัยพัฒนาผลิตสร้างทดลองทดสอบผลิตสร้าง(ต้นแบบ)รับรองการใช้งาน-ใช้งานเต็มรูปแบบในทุกบริบททางด้านสาธารณสุขของประเทศไทยได้อย่างครบวงจร

โดยมันเป็นผลผลิตมาจากฝีมือคนไทยเราเอง เชื่อว่าเราคนไทยสามารถสร้างมันทั้งหมดขึ้นมาในประเทศไทยได้อย่างไร้ข้อจำกัด/ไร้ขีดจำกัด

ผลิตสร้างขึ้นมาแล้วแรกเริ่มนั้น : รัฐก็สมควรจะต้องเป็นผู้ซื้อในนามของหน่วยราชการ(โรงพยาบาล) – ซึ่งบริษัทผู้ผลิต/โรงงานฯของบรรดา SME , Start Up ก็จะมีคำสั่งจ้างผลิตซึ่งก็จะมีรายได้ตามมา – ตำแหน่งงานชั้นดีมีเกิดขึ้นในจำนวนมากมายในประเทศไทย คนไทยก็จะไม่ยากจน …รัฐบาลก็มิต้องจ่ายเงินอุดหนุนช่วยเหลือ ..ปัญหานักศึกษาตกงานหลังจากจบการศึกษาจากสถาบันการศึกษาก็จะไม่มีเกิดขึ้น คนไทยก็จะไม่ขาดโอกาสทางสังคม คนไทยก็จะไม่เข้าป่าบุกรุกป่าเผาป่าหากินเพื่อความอยู่รอดไปวันหนึ่งๆ

เราคนไทยนอกเหนือจากการผลิตสร้างนวัตกรรมทางด้านปัจจัยดำรงชีพที่4 ยารักษาโรค ดังที่ยกตัวอย่างข้างต้นซึ่งมูลค่าของมันบนการประมาณการใช้งานในโรงพยาบาลจำนวน 1,052+ แห่ง = ก็มีมูลค่า 500,000,000,000 – 1,000,000,000,000 บาท และ/หรือมากกว่านั้น)

แต่หากเราคนไทย : สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา-สถาบันวิจัย-รัฐสภา-รัฐบาล-กระทรวง/กรม-เอกชน/SME/Start Up; Thai Sub Con ต่างรวมพลังร่วมใจร่วมมือกันทำการผลิตสร้างนวัตกรรมทางด้านปัจจัยดำรงชีพ8ประการ/พลังงานรอบตัวอย่างครบถ้วนสมบูรณ์(โดยคนไทยฉลาด-บนการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์)ขึ้นมาเป็นของไทยเองสำหรับใช้ในทั่วทุกบริบท/ในทุกหัวระแหงของประเทศไทยภายใต้จำนวนประชากร 67 ล้านคน แล้วก็เชื่อได้ว่าน่าจะมีสินค้านวัตกรรมนานาชนิดในจำนวนหลายล้านรายการ-มูลค่าประมาณการมิได้ ( …,xxx,000,000,000,000 – ….,yyy,000,000,000,000 บาท )

ซึ่งเชื่อว่าประเทศไทยอันหมายถึงคุณภาพชีวิตของคนไทยทั้งชาติกับระบบเศรษฐกิจไทยคงเติบโตจนยากที่จะหยุดยั้ง(ไม่ต่างกับจีนที่เศรษฐกิจก้าวกระโดด)

“น้องบุญอุ้ม” จากผลพวงของสงครามโรคระบาดCovid-19 สมควร ถูกยกเป็นกรณีศึกษาต้นแบบ บนความต้องการสินค้าและนวัตกรรมของประเทศไทย

สำหรับใช้ในการสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนไทยทั้งชาติกับสำหรับสร้างระบบเศรษฐกิจไทยให้เติบโตไปข้างหน้าบนการยืนบนขาของเราเอง

“เสืออากาศ 24/7”

error: Content is protected !!