“บี พุทธิพงษ์” เผย มี 140 แอคเค้าท์ ในblacklist DEs เตรียมดำเนินคดี ปล่อยข่าวปลอม fake news บิดเบือน พบบางราย ใช้ที่อยู่ปลอม บัตรประชาชนคนอื่น พบ มีสื่อหลัก ที่เปลี่ยนมาเป็น สื่อออนไลน์ ด้วย หลัง บิ๊กตู่ สั่งเด็ดขาด ดำเนินคดี เรียบ!!
เผย เตรียมคุยFacebook Thailand ที่บินมาจากสิงคโปร์ พฤหัสนี้ เขาจะให้ความร่วมมือ หากพบ แอคเค้าท์ไหน ปล่อยข่าวปลอม บิดเบือน เขาจะลบแอคเค้าท์นั้น ให้เลย ถือเป็นครั้งแรก ที่เขาให้ความร่วมมือ เพราะเขาเข้าใจเรา โดยเฉพาะจากเรื่อง ข่าวปลอม ที่เกี่ยวกับ ไวรัสโคโรน่า
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกัณต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) ให้สัมภาษณ์ถึงการตรวจสอบFake news เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมาย ว่า ตอนนี้มีบัญชี ราว 140 แอคเคาท์ แต่การติดตามจะเจอตัวหรือไม่เจอตัวนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
เพราะบางครั้งเมื่อตรวจสอบได้ที่อยู่ เรามั่นใจ แต่พอไปถึงพบว่าไม่ใช่ เนื่องจากใช้ชื่อปลอม ที่อยู่ปลอม อีเมล์เพื่อน
เพราะในประเทศไทยคนเปิดแอคเคาท์ ไม่ต้องใช้ชื่อ-นามสกุลจริง รวมถึงไม่ต้องใช้บัตรประชาชน หรือเบอร์โทรศัพท์จริง
ทั้งนี้ เราดำเนินการ 2 เรื่องในตอนนี้ คือ พยายามตรวจสอบข้อมูลด้วยตัวเองก่อนและต้องตามสืบจากคนข้างเคียงที่เข้ามาคอมเม้นท์ เพื่อให้เจอตัว ซึ่งต้องใช้เวลา
ขณะที่Facebook มีมาตรการหากเราสามารถตรวจสอบได้ว่า อันไหนเป็นอวตาร มีข้อความขึ้นมาแบบแย่ตลอด และไม่มีตัวตน ทางเฟซบุ๊กจะยกเลิกแอคเคาท์ ให้ ซึ่งเขาไม่เคยทำกับใคร
แต่จากการที่ตนได้เดินทางไปอเมริกา พูดคุยกับ Facebook ทำให้เขาเข้าใจประเทศไทยมากขึ้น เพราะเราโดนเรื่องนี้เยอะ
และในวันที่ 6 ก.พ.นี้ ทางFacebook Thailand จะบินมาประชุมร่วมกันกับเราที่ประเทศไทย
ทั้งนี้ ถือว่าทาง Facebook ให้ความร่วมมือ และเมื่อวันที่ 3 ก.พ.ที่ผ่านมานายกฯสั่งในที่ประชุมให้ดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างจริงจัง
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า มีสื่อหลักที่เปลี่ยนตัวเองจากรูปแบบปกติไปเป็นออนไลน์ มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงซึ่งหลายเว็บที่เราเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นการหมิ่นประมาท พูดไม่จริง และกล่าวหา ซึ่งคนที่เดือดร้อนคือคนที่ถูกกล่าวหา ดังนั้นคนที่ถูกกล่าวหาต้องฟ้องร้องดำเนินคดีเอง ซึ่งถือว่าเป็นไปตามกฎหมาย
แต่กรณีข่าวปลอมจัดอยู่อีกประเภทหนึ่ง หากตรวจสอบชัดเจนแล้วว่าเป็นข่าวปลอม ตั้งใจบิดเบือน และตอนนี้มีสื่อใหญ่ที่พอจะเข้าข่ายอยู่ ซึ่งอยู่ระว่างเก็บข้อมูลเพื่อดำเนินการในเร็วๆนี้